รายงานการพัฒนาหมู่บ้าน (Village Development Report : VDR)
บ้านอันซอง หมู่ที่ 4 ตำบล กระหาด อำเภอ จอมพระ จังหวัด สุรินทร์
2. สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
2.1 ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
บ้านอันซอง หมู่ที่ 3 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ กลุ่มผู้มาก่อตั้งหมู่บ้าน กลุ่มแรกคือ นายกงตุ๋ย สายกระสุน , นายมี สายกระสุน , นายสุข อุ่นจิต , นายเมง สายกระสุน ซึ่งแยกตัวมาจากบ้านทวารไพร เมื่อประมาณ 145 ปีที่ผ่านมา ได้พบหัวกะโหลกสัตว์ชนิดหนึ่งในหนองน้ำ จึงพากันตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านอันซอง” มีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม
2.2 ที่ตั้ง/ลักษณะภูมิประเทศ/ทรัพยากรของหมู่บ้าน
ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบดินละเอียด พื้นล่างเป็นดินลูกรังและหินดาน บางแห่งเป็นดินทรายพื้นที่ มีเนื้อที่ประมาณ 1,570ไร่ ที่อยู่ 70ไร่ การเกษตร/อื่นๆ 1,500 ไร่ที่ตั้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอ จอมพระ ห่างจากอำเภอ ระยะทาง 10กม. จากจังหวัด ประมาณ 37 กิโลเมตร
แหล่งทรัพยากรน้ำ
หมู่บ้านมีแหล่งน้ำ ที่สำคัญ 3 แห่ง คือ
ชื่อหนองตะคบ มีน้ำใช้ 12 เดือนใน 1 ปี
ชื่อหนองหว่าน มีน้ำใช้ 12 เดือนใน 1 ปี
ชื่อหนองใหญ่ในหมู่บ้าน มีน้ำใช้ 12 เดือนใน 1 ปี
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับบ้านกระทุ่ม หมู่ที่ 6 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
ทิศใต้ ติดกับบ้านกำจัด หมู่ที่ 1 ตำบลกาเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
ทิศตะวันออก ติดกับบ้านรันเดง หมู่ที่ 9 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
ทิศตะวันตก ติดกับบ้านทวารไพร หมู่ที่ 13 ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
การคมนาคม มี 1 เส้นทาง
ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2378 สายจอมพระ – เมืองลิง
สภาพภูมิอากาศ
บ้านอันซอง ได้รับอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พัดพาเอาความหนาวเย็น และความแห้งแล้งเข้ามา และยังได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ พัดเอาฝนและความชื้นเข้ามา ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในรอบปีที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ
1) ฤดูฝน อยู่ช่วง เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมที่ก่อให้เกิดฝนตกทั่วประเทศ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100 – 1,300 มิลลิลิตร/ปี และอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส
2) ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมที่พัดเอาความหนาวเย็น และความแห้งแล้งเข้ามา อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส
3) ฤดูร้อน อยู่ในช่วง เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนพัดมาจากทะเลจีนใต้ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส และจะสูงสุดปลายเดือนเมษายน
2.3 จำนวนครัวเรือนและประชากร
แบ่งออกเป็นคุ้ม/กลุ่ม 2 คุ้ม รวม 63 หลังคาเรือน ประชากรทั้งหมด 63 หลังคาเรือน ชาย 118 หญิง 114 รวม 232 คน
ประชากรตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 จำนวน 63 ครัวเรือน ชาย 118 คน หญิง 114 คน รวม 232 คน สรุปผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน ระดับหมู่บ้าน (จปฐ.2) พ.ศ. 2551 ผ่านเกณฑ์ 37 ตัวชี้วัด ไม่ผ่านเกณฑ์ 4 ตัวชี้วัด (ตัวชี้วัดที่ 10,14,20,27)
ลักษณะประชากร (จำนวนร้อยละของประชากร)
ตามช่วงอายุ ชาย หญิง จำนวนคน ร้อยละ
น้อยกว่า 1 ปีเต็ม - 1 1 0.43
1 ปีเต็ม – 2 ปี 3 1 4 1.72
3 ปีเต็ม – 5 ปี 7 2 9 3.87
6 ปีเต็ม – 11 ปี 10 15 25 10.77
12 ปีเต็ม – 14 ปี 6 3 9 3.87
15 ปีเต็ม – 17 ปี 11 7 18 7.80
18 ปีเต็ม – 49 ปี 47 49 96 41.37
50 ปีเต็ม – 60 ปี 10 15 25 10.77
มากกว่า 60ขึ้นไป ปีเต็ม 15 21 45 19.40
รวมทั้งหมด 118 114 232 100
หมู่บ้าน อันซอง มีจำนวนประชากร 232 คน อายุส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 18 ปีเต็ม – 49 ปี
คิดเป็นร้อยละ 41.37
2.4 สภาพทางเศรษฐกิจ(รายได้ รายจ่าย เงินออม การประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์)
ข้อมูลรายได้ ตาม จปฐ. ปี 2551
รายได้ (บาท) ร้อยละ เฉลี่ย(บ./คร.) (บ./คน)
ภาคเกษตร-ด้านพืช
ปลูกพืช ไว้ขาย 3,071,400.00
ไว้กิน 802,200.00
รวม 3,873,600.00 38.48% 61,485.71 16,696.55
ทำสวน ไว้ขาย 89,400.00
ไว้กิน 237,100.00
รวม 326,500.00 3.24% 5,182.54 1,407.33
ทำไร่ ไว้ขาย 30,000.00
ไว้กิน 3,000.00
รวม 33,000.00 0.33% 523.81 142.24
ทำสวนไม้ดอก ไว้ขาย -
ไว้ใช้ -
รวม - 0.00% - -
รวมรายได้ภาคเกษตร-ด้านพืช 4,233,100.00 42.05% 67,192.06 18,246.12
ภาคเกษตร-ด้านสัตว์
เลี้ยงสัตว์ ไว้ขาย 1,438,000.00
ไว้กิน 517,000.00
รวม 1,955,000.00 19.42% 31,031.75 8,426.72
ทำประมง ไว้ขาย 118,500.00
ไว้กิน 429,900.00
รวม 548,400.00 5.45% 8,704.76 2,363.79
รวมรายได้ภาคเกษตร-ด้านสัตว์ 2,503,400.00 24.87% 39,736.51 10,790.52
แปรรูปผลผลิต
ผลผลิตแปรรูป ไว้ขาย 6,000.00
ไว้กิน 4,000.00
รวม 10,000.00 0.10% 158.73 43.10
รวมรายได้จากการแปรรูปผลผลิต 10,000.00 0.10% 158.73 43.10
รายได้ที่เป็นตัวเงิน
เงินเดือน/ค่าจ้าง 2,412,800.00 23.97% 38,298.41 10,400.00
รายได้จากค้าขาย 98,000.00 0.97% 1,555.56 422.41
รายได้จากประกอบธุรกิจ - 0.00% - -
รายได้อื่นๆ 810,000.00 8.05% 12,857.14 3,491.38
รวมรายได้ที่เป็นตัวเงิน 3,320,800.00 32.99% 52,711.11 14,313.79
รวมรายได้ทั้งหมด 10,067,300.00 100.00% 159,798.41 43,393.53
จากตารางแสดงรายได้ของประชากร ตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 จะเห็นได้ว่า
บ้านอันซอง มีรายได้ เฉลี่ยต่อคนต่อปี (ข้อมูล จปฐ. ปี 2551) เป็นเงิน 43,393.53 บาท รายได้เฉลี่ยเกิน 23,000 บาท/คน/ปี มีจำนวน 63 หลังคาเรือน คิดเป็น 100%
การประกอบอาชีพ
ลักษณะอาชีพ
1. อาชีพการทำนา จำนวน 60 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 95.23
2. อาชีพการทำสวน/ไร่ จำนวน 5 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 6.66
3. อาชีพการเลี้ยงสัตว์ จำนวน 60 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 95.23
4. อาชีพการรับจ้าง จำนวน 6 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 8.0
5. อาชีพการรับราชการ จำนวน 3 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 4.0
6. การทำอาชีพอื่นๆ จำนวน 19 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 25.33
จากข้อมูล การประกอบอาชีพ บ้านอันซอง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ 97.93
รายได้จากการประกอบอาชีพ
1. การทำนา จำนวน 3,873,600 บาท/ปี ร้อยละ 38.48%
2. การทำสวน จำนวน 326,500 บาท/ปี ร้อยละ 3.24%
3. การทำไร่ จำนวน 33,000 บาท/ปี ร้อยละ 0.33%
4. การเลี้ยงสัตว์ จำนวน 1,955,000 บาท/ปี ร้อยละ 19.42%
5. การทำประมง จำนวน 548,400 บาท/ปี ร้อยละ 5.45%
6. การแปรรูปผลผลิต จำนวน 10,000 บาท/ปี ร้อยละ 0.10%
7. รายได้ที่เป็นตัวเงิน จำนวน 3,320,800 บาท/ปี ร้อยละ 32.99%
รวมรายได้ทั้งหมด จำนวน 10,067,300 บาท/ปี
ตารางข้อมูลรายจ่าย หนี้สิน เงินออม ตาม จปฐ. ปี 2551
ข้อมูลรายจ่าย ตาม จปฐ. ปี 2551
รายจ่าย (บาท) ร้อยละ เฉลี่ย(บ./คร.) (บ./คน)
ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต
ก. พันธุ์พืช-สัตว์ 278,200.00 6.22% 4,415.87 1,199.14
ข. สารเคมี 491,600.00 11.00% 7,803.17 2,118.97
ค. ค่าจ้าง 518,860.00 11.61% 8,235.87 2,236.47
ง.เครื่องจักร 222,600.00 4.98% 3,533.33 959.48
รวม 1,511,260.00 33.81% 23,988.25 6,514.05
ค่าใช้จ่ายในการอุปโภคและบริโภค
ซื้อข้าวสาร 29,000.00 0.65% 460.32 125.00
ซื้ออาหารที่จำเป็น 627,000.00 14.03% 9,952.38 2,702.59
ซื้อขนม 168,400.00 3.77% 2,673.02 725.86
เสื้อผ้า 176,200.00 3.94% 2,796.83 759.48
ที่อยู่อาศัย 1,500.00 0.03% 23.81 6.47
ค่ารักษาพยาบาล 112,700.00 2.52% 1,788.89 485.78
ด้านการศึกษา 563,000.00 12.59% 8,936.51 2,426.72
น้ำมันรถ-ค่าโดยสาร 257,700.00 5.76% 4,090.48 1,110.78
ค่าน้ำ-ค่าไฟ 137,950.00 3.09% 2,189.68 594.61
ค่าโทรศัพท์ 87,700.00 1.96% 1,392.06 378.02
ใช้จ่ายส่วนบุคคล 190,900.00 4.27% 3,030.16 822.84
ค่าบันเทิง 43,200.00 0.97% 685.71 186.21
ค่าบุหรี่-สุรา 150,050.00 3.36% 2,381.75 646.77
อื่นๆ 413,700.00 9.25% 6,566.67 1,783.19
รวม 2,959,000.00 66.19% 46,968.25 12,754.31
รวมรายจ่ายทั้งหมด 4,470,260.00 100.00% 70,956.51 19,268.36
หนี้สินจากบัญชีครัวเรือน 2,867,000.00 45,507.94 12,357.76
เงินออมจากบัญชีครัวเรือน 136,300.00 2,163.49 587.50
จากข้อมูล จปฐ. ปี 2551 พบว่า คนบ้านอันซองมี
รายจ่าย เฉลี่ย/คน/ปี เป็นเงิน 19,268.36 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 70,956.51 บาท
หนี้สินจากบัญชีครัวเรือน เฉลี่ย/คน/ปี เป็นเงิน 12,357.76 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 45,507.94 บาท
เงินออม เฉลี่ย/คน/ปี เป็นเงิน 587.50 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 2,163.49 บาท
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
ชื่อสินค้า ผ้าโฮลโบราณ
ผลิตโดย กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านอันซอง
รายละเอียดสินค้า เป็นผ้าไหมมัดหมี่พื้นเมืองสุรินทร์ ย้อมสีธรรมชาติ
ปริมาณการผลิต/เดือน 4 ผืน/เดือน
ชื่อสินค้า ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว
ผลิตโดย กลุ่มแปรรูปจากกะลามะพร้าว
รายละเอียดสินค้า เป็นของใช้ ของประดับและของที่ระลึก เช่น แจกัน โคมไฟ ทัพพี กระปุกออมสินรูปสัตว์ต่าง ๆ กวางกะลา ฯลฯ
ปริมาณการผลิต/เดือน 15 ชิ้น/วัน
ชื่อสินค้า ผ้าห่มไหมพรม
ผลิตโดย กลุ่มสตรีทอผ้า
รายละเอียดสินค้า เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ที่สร้างสรรค์จากงานฝีมือ กลายเป็นผ้าห่มไหมพรม และใช้วัสดุจากธรรมชาติ มีหลายรูปแบบ และสวยงาม
ปริมาณการผลิต/เดือน 50 ผืน/เดือน
2.5 สภาพทางสังคม
ภาษาพูดและศาสนา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ ภาษาส่วย , ภาษาเขมร และภาษาพื้นเมืองอีสาน (ลาว) นับถือศาสนาพุทธ
สภาพบ้านเรือนมีความมั่นคงถาวร มีการจัดบ้านเรือนเป็นระเบียบถูกสุขลักษณะ ครอบครัวมีความอบอุ่น ผู้สูงอายุและคนพิการได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ข้อมูลด้านการศึกษา
หมู่บ้านอันซอง เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก การศึกษา (ระบุว่ามีโรงเรียนในหมู่บ้านหรือไม่มี และถ้าไม่มีเดินทางไปศึกษาที่ไหน) ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบ้านกันโจรง ฯลฯ
ขนบธรรมเนียม ความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณี
1. ประเพณีบุญข้าวจี่ เป็นการนำข้าวเหนียวที่ปั้นโรยเกลือทาไข่ไก่ แล้วจี่ไฟให้สุกการทำบุญมีให้ทานข้าวจี่เป็นต้น การทำบุญข้าวจี่มีผู้นิยมทำกันมาก เพราะมีความเชื่อว่าได้บุญกุศลมาก เพราะเป็นการละทานชนิดหนึ่ง เวลาทำกำหนดเอาเดือนสาม จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบุญเดือนสาม
2. ประเพณีบุญพระเวส บุญที่มีการเทศน์พระเวส หรือมหาชาติ บุญพระเวสกำหนดทำเดือนสี่ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบุญเดือนสี่
3. ประเพณีบุญสรงน้ำ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์หรือผู้หลักผู้ใหญ่ หรือการสรงน้ำ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตรุษสงกรานต์ หรือบุญเดือนห้า
4. ประเพณีบุญเข้าพรรษา โดยปกติกำหนดเอาวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 จะมีการแห่เทียน ถวายผ้าอาบน้ำฝน และไปทำบุญที่วัด
5. ประเพณีบุญข้าวสาก หรือบุญเดือนสิบ จะมีการรวมญาติพี่น้อง ไหว้บรรพบุรุษ เลี้ยงอาหารระหว่างญาติพี่น้อง และมีการไปทำบุญตักบาตรที่วัด
6. ประเพณีออกพรรษา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตั้งแต่เช้ามืดพระสงฆ์จะไปรวมกันที่โบสถ์เพื่อแสดงอาบัติแล้วทำวัตรเช้า พอรุ่งเช้าจะมีการทำบุญตักบาตร
7. ประเพณีพลอง จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 จัดขึ้นเพื่อการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการนำเอาข้าวหลามและขนม ข้าวต้มไปทำบุญที่วัด
8. ประเพณีเซ่นปู่ตา จะจัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 จัดขึ้นเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เคยล่วงเกินในช่วงที่ไปทำนาในฤดูกาลที่ผ่านมา
9. ประเพณีรำแม่มด เป็นประเพณีที่เป็นความเชื่อของชาวบ้านในเรื่องของการช่วยให้คนไข้หาย จากการเจ็บป่วย โดยการจัดพิธีกรรมแล้วจะมีแม่หมอมาเข้าทรงแล้วก็จะไถ่ถามแม่หมอว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้เจ็บป่วย และ จะให้ทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร จากนั้นญาติของผู้ป่วยก็จะไปดำเนินการตามที่แม่หมอได้บอกมา
10. ประเพณีแห่นาค ตัวของนาคจะต้องมีการแต่งหน้าทาแก้มแดง พาดด้วยผ้าสีสด คือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีเหลือง และจะต้องสวมชฎาการสวมชฎ หมายถึง หัวของนาคที่เป็นสัตว์ที่ต้องการบวชใน พระพุทธศาสนา ส่วนการที่ต้องแต่งหน้านาคให้เหมือนผู้หญิงเพื่อให้หญิงคนรักของนาคดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชาย เพราะผู้หญิงนั้นจะอยู่ใกล้กับพระไม่ได้ การแห่นาคก็แห่ด้วยช้าง รถยนต์ หรือยานพาหนะอื่นๆ ตามแต่ฐานะ ของผู้บวช
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ด้านหมอเป่างูสวัสดิ์ ผู้สืบทอดมีนายนวน สายกระสุน
2. ด้านหมอเป่าพิษงูเหา ผู้สืบทอดมีนายสุคน บุญมาก
3. ด้านหมอตำแย – สมุนไพร ผู้สืบทอดมีนางคิด อวยพร
2.6 ทรัพยากรธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อม
ป่าชุมชนป่าโคกหลวง
2.7 กลุ่ม/องค์กรที่สำคัญ และมีกิจกรรมที่ดำเนินการต่อเนื่อง
1. กองทุนหมู่บ้านอันซอง ประธานชื่อ นายสุคน บุญมาก จำนวนสมาชิก 61 คน เงินทุน 1,000,000 บาท กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย การเลี้ยงโค – กระบือ – สุกร ปรับปรุงที่นา และสวัสดิการชุมชน
2. กองทุนโครงการ กข.คจ. บ้านอันซอง ประธานชื่อ นายสุคน บุญมากจำนวนสมาชิก 75 คน เงินทุน 280,000 บาท กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย การเลี้ยงโค – กระบือ – สุกร สนับสนุนกลุ่มอาชีพ
3. กลุ่มสตรีทอผ้าไหม – ไหมพรม ประธานชื่อ นางคนึงนิตย์ หอมขจร จำนวนสมาชิก 32 คน เงินทุน 40,000 บาท กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย ทอผ้าไหมโฮล , มัดหมี่ , ผ้าห่มไหมพรม
4. กลุ่มกะลามะพร้าว ประธานชื่อ นายสุคน บุญมาก จำนวนสมาชิก 15 คน เงินทุน 20,000 บาท กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย ประดิษฐ์โคมไฟ , ของที่ระลึก , ของเด็กเล่น
5. กลุ่มเลี้ยงโค ประธานชื่อ นายจิราวัฒน์ หอมขจร จำนวนสมาชิก 15 คน เงินทุน 30,000 บาท กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย เลี้ยงโค เพื่อจำหน่าย
องค์กรในหมู่บ้านมี 9 องค์กร
คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 15 คน
คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน จำนวน 15 คน
อาสาสมัครสาธารณสุข จำนวน 7 คน
อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) จำนวน 4 คน
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จำนวน 5 คน
อาสาสมัครพัฒนาสังคม จำนวน 1 คน
ภูมิปัญญาท้องถิ่น / ปราชญ์ชาวบ้าน จำนวน 3 คน
อาสาสมัครเกษตร / กรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 1 คน
สมาชิก อบต. ในหมู่บ้าน จำนวน 2 คน
3. การประเมินสถานการณ์พัฒนาหมู่บ้าน
3.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน(กชช.2ค) ปี 2550
บ้านอันซอง ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช.2 ค) ปี 2550 จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 63 ครัวเรือน ราษฎร 232 คน สรุปผลการประเมินที่สำคัญ ดังนี้
ระดับการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
ตัวชี้วัดที่มีปัญหา มีตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรง ที่หมู่บ้านกำลังประสบอยู่ จำนวน 3 ตัวชี้วัด เรียงตามลำดับจากจำนวนหมู่บ้านที่ประสบปัญหาจำนวนมากไปหาน้อย ดังนี้
ลำดับปัญหา ดัชนีชี้วัด(เลขลำดับ) สภาพปัญหา
ระดับ หมายเหตุ
1 การประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน (13) 1 1 - ปัญหามาก
2 การได้รับการศึกษา (21) 1 1 - ปัญหามาก
3 การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชน (26) 1 1 - ปัญหามาก
4 ถนน (1) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
5 น้ำดื่ม (2) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
6 น้ำเพื่อการเกษตร (4) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
7 คุณภาพดิน (27) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
8 การปลูกป่าหรือไม้ยืนต้น (29) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
9 การใช้ประโยชน์ที่ดิน (30) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
แนวทางการพัฒนา จากสภาพปัญหารุนแรงที่หมู่บ้านประสบอยู่ที่สำคัญ 3 ลำดับแรก หมู่บ้านได้กำหนดแนวทางการพัฒนา ดังนี้
1. ปัญหาการประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน (ข้อ 13) ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรงอันดับที่ 1 หมู่บ้าน ได้ส่งเสริมพัฒนาการในด้านการประกอบอาชีพในครัวเรือน โดยให้การฝึกอบรมการประกอบอาชีพเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน/ชุมชน
2. ปัญหาการได้รับการศึกษา (ข้อ 21) เป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรงอันดับที่ 2 หมู่บ้าน มีการส่งเสริมการพัฒนาการด้านการศึกษาของประชาชน โดยกำหนดบังคับให้เรียนต่อจนจบภาคบังคับ 12 ปี และส่งเสริมและพัฒนาในการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หรือการศึกษานอกโรงเรียน โดยเฉพาะด้านวิชาชีพ เป็นหลัก
3. ปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชน (ข้อ 26) เป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรง อันดับที่ 3 หมู่บ้านได้กำหนดแนวทาง การพัฒนาโดยการส่งเสริมให้หมู่บ้าน/ชุมชน มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในชุมชน เช่น การประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านประจำเดือน/ปี อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อชุมชนจะได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ประชาสัมพันธ์การเข้าถึงแหล่งทุน และถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง หรือการฝึกอบรมเพิ่มพูนประสิทธิภาพคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ที่อยู่ในชุมชนให้มีขีดความสามารถในการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ และสถาบันการเงินชุมชนให้เกิดขึ้นในชุมชน
3.2 ผลการวิเคราะห์ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2551
ผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบ้านอันซอง ตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 พบว่า ประชาชนบรรลุเกณฑ์ชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน จำนวน 34 ตัวชี้วัด ไม่บรรลุเกณฑ์ชี้วัด 8 ตัวชี้วัด ไม่มีข้อมูล 0 ตัวชี้วัด
การวิเคราะห์ข้อมูล จปฐ. ปี 2551 ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ด้วยโปรดแกรม ALYUDA FORECASTER XL
ตัวชี้วัดข้อ 33 คนในครัวเรือนไม่สูบบุหรี่ ของครัวเรือนในหมู่บ้านอันซอง
ตัวชี้วัดที่เป็นตัวแปรต้นที่นำมาวิเคราะห์ คือ
1. ตัวชี้วัดข้อ 29 คนอายุ 15-60 ปีเต็ม มีการประกอบอาชีพและมีรายได้
2. ตัวชี้วัดข้อ 30 คนในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 23,000 บาทต่อปี
Input Importance Table
Input Value, %
มีรายได้ไม่ต่ำกว่า23,000 99.999
คน15-60มีอาชีพ 0.001
จากผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตัวชี้วัดที่ 33 เรื่อง คนในครัวเรือน ไม่สูบบุหรี่ มากที่สุดเป็นลำดับแรก คือ ตัวชี้วัดข้อ 30 คนในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 23,000 บาทต่อปี ค่าน้ำหนักอยู่ที่ 99.999% และตัวชี้วัดข้อ 29 คนอายุ 15-60 ปีมีการประกอบอาชีพและมีรายได้ ค่าน้ำหนักอยู่ที่ 0.001%
จากการหาความสัมพันธ์ ที่มีผลกระทบต่อคนในครัวเรือน ไม่สูบบุหรี่ คือ คนในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 23,000 บาทต่อปี ซึ่งมีค่าน้ำหนักสูงสุดไปในทิศทางเดียวกัน กับคนอายุ 15-60 ปีเต็ม มีการประกอบอาชีพและมีรายได้ มีผลกระทบต่อคนในครัวเรือนของหมู่บ้านนี้น้อยมาก
ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข คือ
1. ส่งเสริมการทำบัญชีครัวเรือน เพื่อวางแผนชีวิต
2. ส่งเสริมให้มีอาชีพเสริม และเพิ่มรายได้จากอาชีพหลักคือทำนา
3. ลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน โดยการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ไว้กินเป็นอาหาร เหลือไว้ขาย
4. ส่งเสริมให้มีการรณรงค์เผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดให้โทษแก่ประชาชน
4. แนวโน้ม/ทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
4.1 ศักยภาพของหมู่บ้าน
1. เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ / ปลูกผักสวนครัว
2. มีการพัฒนาดินโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
3. มีป่าชุมชนและการปลูกป่า
4. มีการเลี้ยงโค – กระบือ ทุกหมู่บ้าน
5. มีแหล่งทุนชุมชนทุกหมู่บ้าน
6. มีแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม การทอผ้า ฯลฯ
7. มีแหล่งน้ำการเกษตร
8. ภาคีมีส่วนร่วมกิจกรรมทุกระดับ
9. การคมนาคมสะดวก
10. การอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชน
11. มีกลุ่มองค์กรต่างๆที่เข้มแข็ง
12. มีผลิตภัณฑ์ชุมชนดีเด่น
13. มีปราชญ์ชาวบ้าน
14. มีสถาบันการเงิน
4.2 ปัญหาที่สำคัญของหมู่บ้าน
1. คุณภาพดินมีปัญหา ด้านดินเสื่อมสภาพ
2. ต้นทุนการผลิตสูง
3. มีการอพยพแรงงานในช่วงนอกฤดูทำนาสูง ไม่มีคนอยู่ในหมู่บ้าน
4. ชาวบ้านมีหนี้สินมาก
5. ขาดการบริหารจัดการเงินทุนชุมชน
6. ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสไม่มีงานทำ
7. ครัวเรือนมีหนี้สิน ประมาณ 65 ครัวเรือน
8. ครัวเรือนมีการใช้ยาไม่ถูกต้อง ประมาณ 1 ครัวเรือน
9. การออมมีน้อย
10. สุขภาพไม่ดี
11. ชาวบ้านมีหนี้สินมาก
12. แหล่งน้ำมีน้ำไม่เพียงพอตลอดทั้งปี
13. ขาดคุณธรรม จริยธรรม
14. ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง
4.3 ทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา ผลกระทบต่อชุมชน และวิธีการแก้ไขปัญหา
สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา ผลกระทบต่อชุมชน วิธีการแก้ไขปัญหา
ปัญหาหนี้สินและยากจน
ชาวบ้านมีหนี้สินมาก ไม่มีเงินที่จะใช้หนี้เพราะไม่มีการทำโครงการแบบระบบหมุนเวียรเพื่อจะได้นำเงินมาใช้หนี้สินและได้มีรายได้ ควรหาเงินมาลงทุนทำโครงการใดๆ ก็ได้ที่คิดว่าจะมีรายได้ดีและพอที่จะใช้หนี้สินที่ตนเองกู่หรือยืมมา
การทำโครงการต่าง ๆ
ไม่มีหลักการที่ดีพอในการทำโครงการ ไม่รู้วิธีการดำเนินงาน ต้องมีแผนการหรือรูปแบบการทำงานนั้นเอง ควรมีต้นแบบในการทำโครงการและควรมีการวางแผนก่อนการทำงาน
แหล่งน้ำ
ขาดแคลนแหล่งน้ำที่ไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค/น้ำตื้นเขิน/แหล่งน้ำอยู่ในที่ลุ่มไม่สามารถนำมาใช้ที่ดอนเพื่อการเกษตรได้ และเกิดปัญหาภัยธรรมชาติ ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำการเกษตร และน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคก็ไม่เพียงพอ อยากให้มีงบสนับสนุนขุดลอกห้วยหนองน้ำ และการทำฝายกักเก็บน้ำในคลองต่างๆ
ด้านสาธารณสุข ชาวบ้านไม่สนใจต่อสุขภาพตนเอง และเกิดปัญหาเด็ก ผู้สูงอายุขาดด้านโภชนาการ ทำให้เด็กขาดสารอาหาร และเจ็บไข้ได้ป่วยมาก จัดตั้งกองทุนโภชนาการ ส่งเสริมด้านสุขภาพ และตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมกับรณรงค์เรื่องของการออกกำลังกาย
งบสนับสนุน งบสนับสนุนน้อยต่อการทำงานต่างๆ ในหลายๆ ส่วน การทำงานอาจจะต้องใช้งบโดยจำเป็น โดยงบการทำงานไม่พอต่อการดำเนินงาน ควรมีงบสนับสนุนมากๆ เพื่อที่จะนำมาช่วยในการทำงานของส่วนต่างๆ
เยาวชนขาดจริยธรรม ครอบครัวแตกแยก , หย่าร้าง ทำให้เด็กไม่ฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ ขาดจิตสำนึกและขนบธรรมเนียมประเพณีแบบโบราณ ต้องปลูกฝักและสร้างจิตสำนักให้กับลูกหลาน โดยเฉพาะครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องดูแล และเอาใจใส่ลูกหลานไม่ให้ทำผิดทางจริยธรรม/คุณธรรม
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการบุกรุกทำลายป่าชุมชนและมีการล่าสัตว์ป่า ทำให้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ขาดความสมดุลทางธรรมชาติ และแหล่งอาหารธรรมชาติลดลง มีการปลูกป่าทดแทน และมีการรณรงค์การป้องกันแนวกั้นไฟ ทำเขตแนวป่าชุมชน
สภาพโครงสร้างภายในชุมชน ถนนเส้นทางสายหลักของหมู่บ้านบางส่วนมีสภาพผิวจราจรชำรุด และงบไม่เพียงพอ การจราจรไม่สะดวก และส่งผลต่อการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรลำบาก ควรมีการปรับปรุงการสร้างเส้นทางการคมนาคมเพื่อความสะดวกต่อการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร และการเดินทาง
5. กิจกรรม/โครงการและผลการพัฒนาหมู่บ้านในรอบปีที่ผ่านมา ( ต.ค. 50 - ก.ย.51)
5.1 สรุปกิจกรรมการพัฒนาในรอบปีที่ผ่านมา บ้านอันซอง หมู่ที่ 4 ตำบลกระหาด อำเภอ จอมพระ
ชื่อกิจกรรม / โครงการ ดำเนินการ
ระหว่าง ลักษณะของกิจกรรม เจ้าของ
งบประมาณ งบประมาณ
1. โครงการสร้างรางระบายน้ำ มิ.ย.-ก.ค. 50 ทำรางระบายน้ำ อบต. 90,000
2. สร้างถนนหินคลุกทางเข้าป่าช้า ส.ค.-ก.ย. 50 การสร้างถนนหินคลุกเพื่อเข้าป่าช้า อบต. 70,000
3. โครงการปลูกป่าทดแทน มิ.ย.-ก.ค. 50 ปลูกต้นไม้ทดแทนในที่สาธารณะ ชาวบ้าน 10,000
4. วันแม่แห่งชาติ ส.ค. 50 ทำบุญตักบาตร และพัฒนาหมู่บ้านในวันแม่แห่งชาติ ชาวบ้าน 2,000
5. เลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก มิ.ย. 50 พันธุ์ปลา อยู่ดีมีสุข 35,000
6. ฝึกอบรมเกษตรอินทรีย์ พ.ค. 50 ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ อบต. 5,000
7. ปลูกผักสวนครัว ก.ค. 50 ปลูกผักสวนครัว อยู่ดีมีสุข 20,000
8. การแข่งขันกีฬาตำบล ต.ค. 50 แข่งกีฬาเยาวชน อบต. 10,000
9. การพัฒนาหมู่บ้าน พ.ย. 50 การทำความสะอาดหมู่บ้าน ชาวบ้าน 5,000
10. พ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย ธ.ค. 50 ทำลายเพาะพันธุ์แหล่งยุงลาย อสม. 1,000
11. ทำบุญขึ้นปีใหม่ ธ.ค.50 ทำบุญเลี้ยงพระ ชาวบ้าน 2,000
12. ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกันหนาว ม.ค. 51 แจกผ้าห่มกันหนาว อ.จอมพระ 2,000
13. ทำบุญเรียกขวัญข้าว,เซ็นไหว้ปู่ตา ก.พ.-มี.ค.51 เอาข้าวเปลือกไปเรียกขวัญทำบุญที่วัด ชาวบ้าน 10,000
14. กิจกรรมพัฒนาหมู่บ้าน เม.ย. 51 ทำความสะอาดหมู่บ้าน ชาวบ้าน 2,000
15. วันผู้สูงอายุ เม.ย. 51 รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์ อบต. 5,000
16. กิจกรรมออกกำลังกาย ทุกเดือน ออกกำลังกาย สอต.-อสม. 2,000
17. ประเพณีวันสำคัญต่างๆ วันสำคัญ จัดพิธีวันสำคัญต่างๆ ชาวบ้าน 8,000
18. อบต. พบประชาชน ก.พ. 51 ให้ความรู้และรับทราบปัญหาของหมู่บ้าน อบต. -
5.2 บทบาทของนักพัฒนาในการสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้านตามทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
5.2.1 การร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาจากแผนชุมชน
- ร่วมจัดประชาคมทำแผนชุมชนทุกระดับ
- ประสานงานและประชาสัมพันธ์การเข้าถึงแหล่งทุนของกลุ่มเป้าหมาย
- การรณรงค์การไม่ติดสุรา งานศพปลอดเหล้า
- ส่งเสริมและร่วมแก้ไขปัญหาวัยรุ่น โดยส่งเสริมให้มีการเล่นกีฬา การไม่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่
- ส่งเสริมอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน/ครัวเรือน
5.2.2 การร่วมกำหนดอัตลักษณ์ หรือวิสัยทัศน์ของหมู่บ้าน
“หมู่บ้านเป็นพื้นที่หลักในการบูรณาการแก้ไขปัญหาความยากจน เสริมสร้างความมั่นคงภายใน อำนวยความเป็นธรรมทางสังคม รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนและดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และเกิดความสงบสุขในสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ”
5.2.3 การจัดทำพันธกิจของหมู่บ้าน
- บูรณาการและดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยอำนวยการบริการราชการ ทุกภาคส่วน
- เสริมสร้างการอำนวยความเป็นธรรม ความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม
- ส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การบริการประชาชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
- เสริมสร้างความมั่นคงภายใน พัฒนางานข่าวกรอง และโครงข่ายการสื่อสารรวมทั้งการแก้ไขปัญหา สถานะและสิทธิของบุคคลที่ยังไม่มีสถานภาพที่ชัดเจน
- จัดระเบียบหมู่บ้าน/ชุมชน และบูรณาการแก้ไขปัญหาหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง
- สนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอ
5.2.4 การจัดทำยุทธศาสตร์ของหมู่บ้าน
- การแก้ไขปัญหาความยากจน
- การพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
- การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
- เพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงภายใน และความสงบเรียบร้อย
- การบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- การบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
6. อัตลักษณ์และตำแหน่งการพัฒนาหมู่บ้าน แนวทางการพัฒนาอาชีพ
6.1 ผลการวิเคราะห์ภาพรวมของหมู่บ้านในการค้นหาจุดเด่น
อัตลักษณ์ ตำแหน่งการพัฒนาหมู่บ้าน ตำแหน่งการพัฒนาอาชีพหมู่บ้าน
- หมู่บ้านทอผ้าไหมโฮล ย้อมสีธรรมชาติ , ผ้าไหมพรม, ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกะลามะพร้าว , ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพ (ทอผ้าห่ม , กำมะหยี่ , ผลิตภัณฑ์กะลา) - ตำแหน่งการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมและภูมิปัญญาท้องถิ่น , แหล่งทุนในชุมชน (หมู่บ้านหัตถกรรมสินค้า OTOP) - หมู่บ้านหัตถกรรมสินค้า OTOP (ผ้าไหมโฮ, , กะลามะพร้าว)
- หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มอาชีพ
6.2 แนวทางการพัฒนาอาชีพของหมู่บ้าน
1) ส่งเสริมการทำพันธุ์ข้าวหอมมะลิให้ได้คุณภาพดี
2) ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพออกกำลังกาย
3) การแปรรูปผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกะลามะพร้าว ,พันธุ์ข้าวหอมมะลิ ,ทอผ้าไหมโฮล และผ้าไหมพรม
4) การส่งเสริมสนับสนุนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆในชุมชน
5) การพัฒนาบรรจุภัณฑ์พันธ์ข้าวหอมมะลิ
6) การส่งเสริมและหาตลาดรองรับผลิตภัณฑ์ในชุมชน
7) พัฒนาการทอผ้าไหม และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว
8) หาตลอดเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรข้าวหอมมะลิ
9) ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพพันธุ์ข้าวหอมมะลิ
10) ส่งเสริมการปรับปรุงและพัฒนาดินให้มีคุณภาพ
7. ข้อเสนอแนะของนักพัฒนา ต่อการพัฒนาหมู่บ้าน
7.1 การวิเคราะห์จุดแข็ง(ศักยภาพ)ของหมู่บ้าน (ปัจจัยภายใน เช่น ผู้นำ , กลุ่มองค์กร ,เครือข่าย, ทุน ฯ )
1. ผู้นำมีการทำงานที่ดีในการปฏิบัติงานและมีหลักการในการทำงาน
2. มีประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม
3. มีกองทุนให้กู้ยืมประกอบอาชีพ มีการรวมกลุ่ม
4. มีการรวมกลุ่ม ฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมคิด ร่วมทำ
5. ส่งเสริมเศรษฐกิจแบบพอเพียง สนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์
6. กลุ่มองค์กรมีการประสานการทำงานที่ดี
7. ในการทำงานหรือโครงการมีทุนสนับสนุนทุกหน่วยงาน หรือทุกโครงการ
8. การทำงานมีการแบ่งสายการทำงานเป็น เครือข่ายในแต่ละหน่วยงาน
9. การทำงานของกลุ่มอาชีพสามารถสร้างงาน/เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน
7.2 การวิเคราะห์จุดอ่อน(ปัญหา)ของหมู่บ้าน (ปัจจัยภายใน เช่น หนี้สิน ,ต้นทุนการผลิต, แหล่งน้ำ ฯ )
1. ปัญหาความยากจน มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก
2. ปัญหาไม่มีเงินที่จะชำระหนี้สิ้น
3. ผลผลิตทางการเกษตรไม่ดี ประสบปัญหาภัยแห้งไม่มีน้ำ
4. สภาพปัญหาขาดความอบอุ่นในครอบครัว
5. แหล่งน้ำการเกษตรขาดแคลนและไม่สามารถนำน้ำจากลุ่มน้ำมาใช้ในการทางการเกษตรอย่างเพียงพอ
6. มีเงินทุนในการทำโครงการของหมู่บ้านมีน้อยไม่เพียงพอ
7. ประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้ในการทำงานและการประกอบอาชีพ
7.3 การวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนาของหมู่บ้าน
1. รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนได้ทำโครงการต่างเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและสร้างรายได้และลดรายจ่าย เช่นโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดี มีสุข
2. รัฐบาลส่งเสริมด้านการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรให้มีราคาที่เหมาะสมไม่ตกต่ำจนเกินไป
3. รัฐบาลต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้ความรู้และงบประมาณในด้านการผลิตพลังงานทดแทน เช่น ไบโอดีเซล
4. รัฐบาลออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้ที่ครอบครองในที่ดินทำกินที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์
7.4 บทบาทของนักพัฒนา ที่จะสนับสนุนในอนาคต
1. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพื่อพัฒนาหรือแก้ปัญหาต่างๆในชุมชน
2. องค์กรส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณให้ชุมชนน้อย
3. สร้างเครือข่ายองค์กร เครือข่ายการเรียนรู้ชุมชน
4. สนับสนุนและจัดตั้งศูนย์ประสานองค์การชุมชน
8. คณะทำงานจัดทำรายงานการประเมินพัฒนาหมู่บ้าน
1. ชื่อนายสุคน บุญมาก ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน
2. ชื่อนางอริศรา บุญใหญ่ ตำแหน่ง ประธานกองทุนหมู่บ้าน
3. ชื่อนายพิษณุ บุญมาก ตำแหน่ง สมาชิก อบต.
4. ชื่อ นายสุภาพ สายกระสุน ตำแหน่ง สมาชิก อบต.
5. ชื่อ นายสุรศักดิ์ สายกระสุน ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
6. ชื่อนางสมเพียร สายกระสุน ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
7. ชื่อนายวัฒนา สายกระสุน ตำแหน่ง ผู้นำ อช.
8. ชื่อนายสุคน บุญมาก ตำแหน่ง ประธานประชาคม
9. ชื่อนายสมพร โสธร ตำแหน่ง กรรมการหมู่บ้าน
10. ชื่อนางคนึงนิตย์ หอมขจร ตำแหน่ง กรรมการหมู่บ้าน
11. ชื่อนายรณฤทธิ์ บุญมาก ตำแหน่ง กรรมการหมู่บ้าน
12. ชื่อนายนวน สายกระสุน ตำแหน่ง ปราชญ์ชาวบ้าน
13. ชื่อนางสง่า สายกระสุน ตำแหน่ง อสม.
14 ชื่อนายสุเทพ อยู่ดีรัมย์ ตำแหน่ง กรรมการหมู่บ้าน
15. ชื่อนายจีราวัฒน์ หอมขจร ตำแหน่ง อปพร.
ที่ปรึกษา
นายเจน ยินดีรัมย์ พัฒนาการอำเภอจอมพระ
ผู้เขียน/ผู้เรียบเรียง
1. นายไพฑูรย์ คล้ายบุญ นักพัฒนาชุมชน 6
2. นางจันทร์เพ็ญ ชิณภา นักพัฒนาชุมชน 6
3. นางสุภาภรณ์ ไวแสน นักพัฒนาชุมชน 6ว
4. นายทรงราช ญาณอุบล นักพัฒนาชุมชน 4
5. นางสาวปรียาภรณ์ พรหมพินิจ นักพัฒนาชุมชน 3
ผู้พิมพ์/ภาพประกอบ
นางสาวปรียาภรณ์ พรหมพินิจ นักพัฒนาชุมชน 3
9. ภาคผนวก/รายงานประชาคมประเมินการพัฒนาหมู่บ้าน
ระเบียบวาระการประชุมประชาคมหมู่บ้านเพื่อประเมินการพัฒนาหมู่บ้านปี 2551
บ้านอันซอง หมู่ที่ 4 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ
วันที่ 26 เดือน มีนาคม พ.ศ.2551
เริ่มประชุม เวลา 19.00 น.
เมื่อที่ประชุมพร้อม นายสุคน บุญมาก ผู้ใหญ่บ้าน ได้กล่าวเปิดการประชุมประชาคมคณะทำงานประเมินสถานการพัฒนาหมู่บ้าน โดยได้ทำการนับองค์ประชุม มีตัวแทนครัวเรือน เข้าร่วมประชุม จำนวน 52 คน จากครัวเรือนทั้งหมด จำนวน 63 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 82.57 ถือว่าครบองค์ประชุม จึงดำเนินการตามระเบียบวาระดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบ
1. การจัดประชุมครั้งนี้เป็นการจัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในการประเมินสถานการพัฒนาของหมู่บ้าน ซึ่งมีคณะทำงานจัดทำรายงานประเมินการพัฒนาหมู่บ้าน จำนวน 15 คน เป็นผู้ร่างขึ้น
2. ความสำคัญในการประเมิน ประธานแจ้งที่ประชุมทราบว่า การประเมินการพัฒนาหมู่บ้านเป็นสิ่งที่ชุมชนของเรา สามารถทำการวิเคราะห์ ทำความรู้จักตนเอง รู้จักชุมชน คิดหาแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านเราโดยตัวเราเอง โดยเราจัดทำรายงานนี้ ถือว่าเป็นการสรุปข้อมูลหมู่บ้านในรอบ หนึ่งปี ที่เกิดงานเกิดกิจกรรมและสามารถใช้เป็นเครื่องมือให้พวกเราช่วยกันพัฒนาตนเอง ที่สำคัญให้พวกเรารู้ว่า เรามีทุน เรามีอาชีพอะไรที่เป็นพื้นฐาน เรามีที่ท่องเที่ยว มีสินค้าพื้นเมือง หรือเรามีปราชญ์ชาวบ้าน ทีมีคุณค่าอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องมาดูว่า ในอีก5 -10 ปี ข้างหน้าเราจะเอาสิ่งเหลานี้มาสร้างรายได้ให้กับพวกเราได้อย่างไร อันนี้ เรียกว่า "ตำแหน่งของชุมชน" เราต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาสร้างรายได้
ที่ประชุม มีมติรับรอง
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเสนอที่ประชุมพิจารณา
1. ประธานนำร่างแบบรายงานผลการประเมิน มาอ่านให้ที่ประชุมได้ทราบ และร่วมกันพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ให้ที่ประชุมทำการปรับปรุง แก้ไขได้ตามความเห็น และเหตุผลของที่ประชุม จนครบทุกประเด็น ประธานจึงได้สอบถามมติที่ประชุม ว่ารับรองหรือไม่
มติที่ประชุม ออกเสียงรับรอง จำนวน 48 คน ออกเสียงไม่รับรอง จำนวน 4 คน
มติที่ประชุม รับรอง
ปิดประชุม เวลา 21.00 น.
(ลงชื่อ) สุรศักดิ์ สายกระสุน ผู้บันทึกการประชุม
( นายสุรศักดิ์ สายกระสุน )
(ลงชื่อ) สุคน บุญมาก ผู้ตรวจรายงานการประชุม
( นายสุคน บุญมาก )
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น